J-Bolt แบบสั่งผลิต คืออะไร
ในงานโครงสร้างจริง ไม่ใช่ทุกโครงการจะสามารถใช้ J-Bolt มาตรฐาน ได้เสมอไป เนื่องจากขนาดของฐานเสา ระยะฝังคอนกรีต และแรงดึงที่ต้องรับอาจแตกต่างกันออกไป ดังนั้นจึงมีการผลิต J-Bolt แบบสั่งทำ (Made-to-Order) เพื่อให้ได้ขนาด ความยาว และวัสดุที่ตรงตามแบบของวิศวกรโครงสร้าง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความแม่นยำของจุดยึด
1. การวางแบบ J-Bolt ให้เหมาะกับโครงสร้าง
ก่อนสั่งผลิต J-Bolt จำเป็นต้องมีการ “วางแบบ” หรือกำหนดขนาดหลัก ๆ ได้แก่
- เส้นผ่านศูนย์กลางของเกลียว (Thread Diameter): เช่น M12, M16, M20, M24 หรือ M30 ขึ้นอยู่กับแรงดึงที่ต้องรับ
- ความยาวรวม (Overall Length): ควรกำหนดให้เพียงพอสำหรับระยะฝังในคอนกรีต และระยะเกลียวที่ต้องยึดกับเพลต
- ความยาวส่วนเกลียว (Thread Length): โดยทั่วไปอยู่ที่ 1/3 ของความยาวรวม เพื่อให้สามารถขันน็อตและแหวนได้สะดวก
- รัศมีส่วนโค้งของตัว “J” (Bend Radius): ยิ่งโค้งกว้าง แรงกระจายสู่คอนกรีตยิ่งดี
- ระยะฝังคอนกรีต (Embedment Depth): ต้องเพียงพอให้รับแรงดึงตามมาตรฐานวิศวกรรม
การออกแบบที่แม่นยำตั้งแต่ต้น ช่วยลดปัญหาการติดตั้งผิดตำแหน่ง และรับแรงได้เต็มประสิทธิภาพ
2. การเลือกวัสดุและเกรดเหล็ก
วัสดุของ เหล็กเจโบลท์ (J-Bolt Steel) มีหลายเกรดให้เลือกตามลักษณะงาน เช่น
| วัสดุ |
คุณสมบัติเด่น |
เหมาะกับงาน |
| SS400 / A36 |
แข็งแรงพอประมาณ ราคาคุ้มค่า |
งานทั่วไป, เสาเหล็กเบา |
| S45C / SCM440 |
ทนแรงดึงสูง ใช้กับ Bolt Grade 8.8–10.9 |
เสาอาคาร, เสา Tower |
| ASTM A325 / A490 |
มาตรฐานสหรัฐฯ ทนแรงเฉือนสูง |
งานโครงสร้างหนัก |
| สเตนเลส 304 / 316 |
กันสนิมเยี่ยม |
งานกลางแจ้ง, ริมทะเล |
นอกจากนี้ยังสามารถ เคลือบผิวป้องกันสนิม ได้ เช่น
- HDG (Hot-Dip Galvanized)
- Zinc Plating
- Epoxy Coating
3. ขนาดและการเลือกเกลียว
ชนิดของเกลียวมีผลต่อการขันน็อตและแรงยึด
- เกลียวละเอียด (Fine Thread): เหมาะกับงานที่ต้องการแรงยึดสูงและขันแน่นมาก
- เกลียวหยาบ (Coarse Thread): เหมาะกับงานทั่วไป ติดตั้งง่าย ไม่เสียหายง่าย
ควรเลือกชนิดเกลียวให้เหมาะกับน็อตและแหวนที่ใช้ร่วมกัน เพื่อป้องกันการคลายตัวในระยะยาว
4. ขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพก่อนใช้งาน
ก่อนนำ J-Bolt ที่สั่งผลิตมาใช้งาน ควรมีการตรวจสอบคุณภาพตามขั้นตอนนี้
- ตรวจขนาดและรูปร่าง: วัดความยาว เส้นผ่านศูนย์กลาง และมุมโค้งให้ตรงแบบ
- ตรวจเกลียว: ลองขันน็อตจริงเพื่อเช็กความเรียบลื่นและความตรงของเกลียว
- ตรวจวัสดุ: ขอใบรับรองคุณสมบัติเหล็ก (Mill Certificate / Test Report)
- ทดสอบแรงดึง (Tensile Test): โดยเฉพาะในงานโครงสร้างสำคัญ
- ตรวจความเรียบร้อยของการชุบผิว: ต้องไม่มีรอยสนิม ฟองอากาศ หรือการเคลือบไม่สม่ำเสมอ
5. ข้อดีของ J-Bolt แบบสั่งผลิต
- สามารถออกแบบให้ ตรงตามโครงสร้างและโหลดจริง
- ใช้ได้ทั้งในงานอาคารสูง เสาโทรคมนาคม และฐานเครื่องจักร
- ลดปัญหาการติดตั้งผิดขนาดหรือแรงยึดไม่เพียงพอ
- สามารถเลือกวัสดุและการเคลือบที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมเฉพาะ (กลางแจ้ง / ชื้น / กัดกร่อน)
สรุป
J-Bolt แบบสั่งผลิต (Made-to-Order) ไม่เพียงแต่ช่วยให้งานติดตั้งมีความแม่นยำและปลอดภัย แต่ยังสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับสภาพหน้างานจริง ทั้งขนาด เกรดเหล็ก และการเคลือบผิว ทำให้ตอบโจทย์ทั้งงานอาคารสูง เสา Tower และฐานเครื่องจักรขนาดใหญ่ หากต้องการสั่งผลิต J-Bolt คุณภาพสูงตามแบบ มั่นใจได้กับผู้ผลิตมาตรฐานอย่าง Chorkit ที่มีประสบการณ์และเครื่องจักรครบทุกขั้นตอน
รับผลิต J Bolt ตามสั่ง มาตรฐานครบ จบที่เดียว
J-Bolt (เจโบลท์) แบบสั่งผลิตตามแบบ จาก Chorkit ผลิตจากเหล็กคุณภาพสูงตามมาตรฐานสากล แข็งแรง ทนแรงดึง เหมาะสำหรับงานโครงสร้างสูง อาคาร เสาโทรคมนาคม และฐานเครื่องจักรทุกประเภท ด้วยดีไซน์รูปตัว J ที่ฝังแน่นในคอนกรีต ช่วยกระจายแรงได้ดี ป้องกันการหลุดหรือบิดตัวของฐานราก สั่งผลิตตามแบบ (Made to Order) คุณภาพจาก Chorkit มั่นใจในความแข็งแรง ปลอดภัย และมาตรฐานในทุกโครงการ.
โทร: 02-216-8686, 081-722-5488
Line ID: ckr11
เปิดบริการ: วันจันทร์-เสาร์ 08:30 – 17:30 น.