พุกเคมีแบบฉีด vs แบบปั่น

พุกเคมีแบบฉีด vs แบบปั่น: ต่างกันอย่างไร งานไหนควรใช้แบบไหน

สรุปสั้น ๆ ก่อนเริ่ม

ถ้ามีหลายจุด หลายขนาดรู อยากคุมงบ ⇒ เลือก “แบบฉีด” เพราะปรับปริมาณเรซินได้ ยืดหยุ่นกับหน้างานสุด ๆ

ถ้าเป็นจุดสำคัญ ต้องการความสม่ำเสมอและตรวจงานง่าย ⇒ เลือก “แบบปั่น” (แคปซูล) ปริมาณเรซินเท่ากันทุกจุด ผสมเนียนทุกครั้ง

 

พุกเคมีแบบฉีดคืออะไร?

พุกเคมี แบบฉีด ใช้ตลับเรซินคู่ (เรซิน + ตัวเร่ง) บีบผ่าน “หัวผสม” ให้สารทั้งสองรวมกัน จากนั้นฉีดเรซิน จากก้นรูขึ้นมาหาปากรู ไล่อากาศให้หมด แล้วค่อยหมุนดันสลักเกลียวเข้าไป รอให้เซ็ตตัวตามเวลาที่ระบุ ก็พร้อมรับแรง

ข้อดี

  • ยืดหยุ่นสูง: รูใหญ่ รูเล็ก ความลึกต่างกัน เอาอยู่หมด
  • คุ้มเวลา–คุ้มงบ ถ้าติดตั้งหลายจุด ตลับเดียวทำได้เยอะ
  • งานเพดานก็ไหว เนื้อเรซินหนืด ไม่ไหลย้อยง่าย

จุดที่ต้องระวัง

  • ช่วงแรกของการบีบ ต้องทิ้งเนื้อทดสอบ ให้สี/เนื้อสม่ำเสมอก่อน
  • หัวผสมที่วางทิ้งนานอาจเริ่มแข็ง ต้องเปลี่ยนหัว
  • ปริมาณเรซินขึ้นกับช่าง ถ้าไม่ชำนาญอาจใส่มาก–น้อยเกินไป

 

พุกเคมีแบบปั่นคืออะไร?

พุกเคมี แบบปั่น ใช้แคปซูลแก้ว/โพลีเมอร์บรรจุเรซิน 2 ส่วน ใส่แคปซูลลงรูแล้วใช้สว่านหรืออุปกรณ์ หมุนสลักเกลียวให้ปลายเกลียวบดแคปซูลจนแตก สารจะคลุมผนังรูและเกลียวอย่างทั่วถึง จากนั้นปล่อยให้เซ็ตตัว

ข้อดีแบบเข้าใจง่าย

  • ปริมาณเป๊ะทุกจุด เพราะมาจากโรงงานเท่ากันหมด
  • ทำงานเร็ว เป็นจุด ๆ เจาะ–ใส่–ปั่น จบ
  • QC สบายใจ นับแคปซูลง่าย ตรวจสอบย้อนกลับได้

จุดที่ต้องระวัง

  • ขนาดรู/ความลึก ต้องตามเบอร์แคปซูล เปลี่ยนได้น้อย
  • สูตรบางรุ่น ไม่เหมาะกับรูชื้น/อิ่มน้ำ ต้องดูฉลากให้ชัด
  • งานเหนือศีรษะอาจต้อง ค้ำแคปซูล ก่อนปั่น

ตารางเปรียบเทียบกันชัด ๆ

หัวข้อ แบบฉีด แบบปั่น (แคปซูล)
คุมปริมาณเรซิน ขึ้นกับช่าง เท่ากันทุกหลอด
งานหลายจุด คุ้มกว่า เมื่องานเยอะ เร็วต่อจุด แต่ต้นทุน/จุดสูงกว่าเล็กน้อย
งานเพดาน ง่ายกว่า ทำได้ แต่ต้องค้ำช่วย
รูชื้น/อิ่มน้ำ มีสูตรรองรับ (เช่น Vinylester) ต้องเช็กสเปกเฉพาะรุ่น
ความยืดหยุ่นขนาดรู สูง จำกัดตามเบอร์แคปซูล
อายุเก็บ ~12–18 เดือนหลังเปิด 2–3 ปี

แล้วงานของคุณควรใช้แบบไหน?

ไปแบบฉีด ถ้า…

  • มี หลายร้อยจุด ขนาดรูไม่เหมือนกัน
  • ทำงานแนวเพดานหรือพื้นที่ที่ต้องคุมการไหลของเรซิน
  • ต้องการ คิวร์เร็ว หรือทำงานในรูที่มีความชื้น
  • ต้องปรับความลึกหน้างานหลังสแกนเหล็กเสริม

ไปแบบปั่น ถ้า…

  • เป็นจุดสำคัญที่อยากได้ ความสม่ำเสมอสูง
  • งานโครงสร้างรับแรง เช่น ฐานเสา ป้ายความปลอดภัย เครื่องจักร
  • ต้องการ ตรวจรับง่าย: 1 แคปซูล = 1 จุด ไม่เสี่ยงใส่เกิน/ขาด

 

เลือกเรซินให้ตรงงาน (พูดให้สั้น)

  • Epoxy: แกร่งสุด ทนความร้อน/สารเคมี คิวร์ช้ากว่า เหมาะงานโครงสร้างหนัก
  • Vinylester: คิวร์ไว ใช้กับรูชื้นได้ดี เหมาะงานเร่งด่วน
  • Polyester: ประหยัด ใช้กับงานเบาถึงกลาง ไม่แนะนำงานวิกฤต

 

ขั้นตอนและเทคนิคการติดตั้ง

แบบฉีด

  1. เจาะรู ตามขนาดและความลึกที่ผู้ผลิตระบุ
  2. ทำความสะอาด “เป่า–แปรง–เป่า” อย่างน้อย 2–3 รอบ
  3. ต่อหัวผสม แล้วบีบทิ้งช่วงแรกจนสี/เนื้อสมํ่าเสมอ
  4. ฉีดจากก้นรูขึ้นมา ให้เกือบเต็ม ไล่อากาศให้หมด
  5. หมุนดันสลักเกลียว เข้าไปให้เรซินเคลือบทั่ว
  6. รอคิวร์ แล้ว ขันตามค่าแรงบิด (Torque) ที่กำหนด

แบบปั่น

  1. เจาะ–ทำความสะอาดรู เช่นเดียวกัน
  2. ใส่แคปซูลให้สุดก้นรู
  3. ใช้สว่าน/ชุดขับ หมุนสลักเกลียว ให้แคปซูลแตกและผสมทั่ว
  4. รอคิวร์ แล้ว ขัน Torque ตามสเปก

ทริก: ไม่ว่าจะแบบไหน ให้ยึดหลัก “ความลึกฝังที่เหมาะสม + ระยะห่างระหว่างพุก + ระยะจากขอบคอนกรีต” ตามเอกสารผู้ผลิตและแบบวิศวกรเสมอ

 

 

สรุป

  • แบบฉีด เหมาะกับงานจำนวนมาก หน้างานหลากหลาย ต้องคุมงบและเวลาทั้งโครงการ
  • แบบปั่น เหมาะกับจุดสำคัญที่ต้องการความสม่ำเสมอสูงและตรวจรับง่าย

ถ้ายังชั่งใจอยู่ว่าไซต์งานคุณควรใช้แบบไหน ทีมเทคนิคของ CHORKIT ช่วยแนะนำสเปก ด้วยเป้าหมายคือ “จุดยึดที่แน่น ปลอดภัย และไม่บานปลายเรื่องงบ” ครับ.

 

โทร: 02-216-8686, 081-722-5488
Line ID: ckr11
เปิดบริการ: วันจันทร์-เสาร์ 08:30 – 17:30 น.

Start typing and press Enter to search

Shopping Cart

ไม่มีสินค้าในตะกร้า

error: Content is protected !!